เวลาพูดถึงการตลาดดิจิทัล หลายคนชอบนึกถึงการสร้าง content เจ๋ง ๆ สักอันเพื่อใช้ขายสินค้า จากนั้นจึงยิงโฆษณาเพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเห็นมากขึ้น แต่ว่าการทำการตลาดดิจิทัลคือการสร้างโฆษณาเจ๋ง ๆ สักอันแค่นั้นจริง ๆ หรือ? นี่คือคำถามสำคัญที่เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องถามตัวเองให้ดี 🙂
การสร้างโฆษณาเจ๋ง ๆ สักอันไม่ใช่คำตอบเดียวของการทำตลาด และไม่ได้ผลกับทุกสินค้าด้วยซ้ำ การซื้อสินค้าบางประเภทจำเป็นต้องมีปัจจัยอื่นมาใช้ประกอบการตัดสินใจ เช่น ความน่าเชื่อถือ เป็นต้น ซึ่งการโฆษณาเพียงครั้งเดียวอาจไม่สามารถทำให้เกิดผลกระทบกับผู้บริโภคตามต้องการได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีแนวทางโฆษณาที่เอเจนซี่บางรายนิยมใช้กันและเชื่อว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีพอสมควร ซึ่งทาง DigiTide ก็เคยใช้ได้ผลมาบ้างแล้วเช่นกัน แต่ว่าไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะได้ผลตอบรับที่คุ้มค่าในระดับไหนนะครับ เพราะมีหลายปัจจัยเหลือเกินที่มาเกี่ยวข้อง แต่แนวคิดในการทำนั้นมี 3 ขั้นตอนง่าย ๆ เลยครับ (การนำไปทำจริงจะต้องมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์นะครับ บางครั้งอาจต้องใช้มากกว่า 3 ขั้นตอน บางครั้งอาจต้องใช้เวลามากขึ้น ฯลฯ) ง่ายจนหลายคนอาจไม่เชื่่อด้วยซ้ำว่าทำแค่นี้เองหรือ
1. สร้างความคุ้นเคยและความน่าเชื่อถือ
— ด้วยการทำคลิปแนะนำตัวเจ้าของแบรนด์ อธิบายถึงที่มาและ passion ของการสร้างแบรนด์นี้
2.แนะนำสินค้าของแบรนด์
— เมื่อลูกค้าคุ้นเคยกับแบรนด์แล้ว เราจึงทำคลิปแนะนำสินค้าของแบรนด์ออกมาให้พวกเขารู้จัก
3. โฆษณาโปรโมชั่นของสินค้านั้น ๆ
— เมื่อลูกค้ารู้จักสินค้าและอาจเริ่มสนใจสินค้าแล้ว จึงกระตุ้นให้เกิดการซื้อในเวลานั้นด้วยการทำคลิปโปรโมชั่นสินค้า
แม้ว่าแนวคิดจะดูง่าย… แต่ว่าไม่ใช่ว่าทำกันได้ง่าย ๆ เพราะว่าเงื่อนไขสำคัญก็คือ ลูกค้าจำเป็นต้องเห็นทั้ง 3 ขั้นตอนนั้นเสียก่อนจึงจะมีโอกาสสูงที่จะซื้อสินค้า
และข้อได้เปรียบของสื่อดิจิทัลถูกนำมาใช้ในจุดนี้เอง
ทั้งนี้เพราะว่าในสื่อเดิม ๆ อย่างโทรทัศน์หรือวิทยุนั้น การจะยืนยันว่าลูกค้ากลุ่มเดิมเห็นคลิป 1-3 นั้นแทบเป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับสื่อดิจิทัลแล้ว มีรูปแบบโฆษณาที่เรียกว่า remarketing หรือ retargeting ที่สามารถยิงโฆษณาไปยังผู้ที่เคยชมคลิปใดคลิปหนึ่งมาก่อน (จริง ๆ แล้ว remarketing ยังมีความสามารถเยอะกว่านี้มาก แต่ขอเก็บไว้กล่าวในครั้งต่อ ๆ ไป) ดังนั้นเองการทำขั้นตอน 1-3 จึงเป็นไปได้ไม่ยาก
สำหรับบางแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักกันอยู่แล้ว บางครั้งขั้นตอนที่ 1 ก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นการพูดคุยถึงปัญหาที่สินค้าจะมาแก้ไขได้ เช่น ถ้าจะขายผลิตภัณฑ์รักษาอาการนิ้วล็อค ขั้นตอนที่ 1 ก็จะเปลี่ยนเป็นคลิปที่พูดคุยถึงเรื่องนิ้วล็อค หรือการรักษานิ้วล็อคแบบทั่วไปแทน
บทความนี้ DigiTide แบไต๋แนวคิดหลัก ๆ ในการสร้าง content เพื่อขายสินค้าเลย ถ้าผู้อ่านเข้าใจแล้วนำไปปรับใช้กับแบรนด์ของตัวเอง เรารับประกันว่าต้องได้ผลในระดับหนึ่งอย่างแน่นอน
แต่อย่าลืมว่าทุกสินค้าทุกแบรนด์ต่างมีเงื่อนไขและปัจจัยต่างกันไป จงวัดผล วิเคราะห์ผล และปรับปรุงแนวทางการทำงานในแต่ละขั้นตอนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับแบรนด์ต่อไปนะครับ
ด้วยความปรารถนาดี
DigiTide