โฆษณา Facebook เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ในยุคนี้ ซึ่งหลายคนชอบบอกว่า โฆษณาเฟสบุ๊คทำแล้วไม่ค่อยได้ผล และ มันการปรับตลอดเวลา ค่าโฆษณาก็แพงขึ้นจากหลายปีก่อนมาก ทำให้หลายคนเริ่มถอนกันไปบ้างแล้ว ซึ่งในความเป็นจริงโฆษณา Facebook ใช้ได้ดีอยู่ แล้วแม่นขึ้นนะ หากเข้าใจและใช้มันเป็น ดังนั้นอย่ารอช้าดีกว่า
วันนี้ DigiTide เอา เคสตัวอย่างการทำ Facebook Ads มาให้ทุกคนได้ดูกัน ที่ได้ ROI 1795%
สูตรการหา ROI = (( รายได้ – ค่าใช้จ่าย ) / ค่าใช้จ่าย ) x 100
ROI = (( 3870 – 204.14 ) / 204.14 ) * 100 = 1795.75%
เล่าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ที่เคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับ Facebook Funnel เป็นที่มาของการทำบทความนี้ หากในการเล่าครั้งนี้ไม่เข้าใจตรงไหน ขอให้ลองย้อนกลับไปอ่าน บทความนี้ก่อน >>Facebook Funnel ศิลปะการทำโฆษณาเฟสบุ๊ค สำหรับธุรกิจออนไลน์ << จากนั้นสามารถมาฟังประสบการณ์กันได้เลย
การลงโฆษณา Facebook ที่ใช้กับเว็บไซต์ ต้องติด Pixel ไว้เสมอ เพราะว่า มันจะช่วยให้สามารถติดตามคนที่เข้ามาเว็บไซต์ได้ถูกคน ซึ่งจะมีวิธีการทำที่เป็นสเต็ปมาก
ลูกค้าของ Facebook จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม
- Cold Lead คนที่ไม่รู้จักเราเลย ซึ่งต้องทำเนื้อหาให้เขาจำเราให้ได้
- Warm Lead คนที่คุ้นเราขึ้นมาอีกนิด ต้องสร้างเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อพวกเขา
- Hot Lead คนที่พร้อมจะซื้อแล้ว ต้องให้โปรโมชั่นพวกเขา
จากภาพการลงโฆษณา จะแบ่งออกเป็น 3 แคมเปญ
- สร้าง Engagement
- สร้างการ Awareness โดยการส่งคนเข้าที่เว็บ
- ทำ Remarketing ให้คนที่ไม่ยอมซื้อ
ผลลัพธ์ ที่ได้กลับมาคือ มีคนซื้อ 3 คน จากแคมเปญ Awareness 2 คน และ Remarketing 1 คน ขายได้ถึง 3,870.- ด้วยค่าโฆษณาเพียง 278.12.- ค่าเป็น ROI 1,795%
3 ขั้นตอนการทำแคมเปญโฆษณามีดังนี้
ขั้นที่ 1 ติดตั้ง Pixel ในเว็บไซต์ให้เรียบร้อย
ขั้นที่ 2 สร้างกลุ่มเป้าหมายที่เข้าเว็บให้ชัดเจน
- คนที่กดใส่ตะกร้าในรอบ 30 วัน
- คนที่สั่งซื้อในรอบ 30 วัน
- คนที่เข้าหน้าสินค้าในรอบ 30 วัน
- คนที่เข้าหน้าสินค้าที่อ่านเกิน 60% ของหน้า ในรอบ 30 วัน
- คนที่เคยเข้าเว็บแล้ว 180 วัน
- คนที่ Engage กับเพจ 180 วัน
ยิ่งเราละเอียดกับลูกค้ามากเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสสร้างยอดขายได้มากขึ้นเท่านั้น
ขั้นที่ 3 ลงโฆษณา Facebook แบบ Funnel
ทั้งนี้จะยกตัวอย่างที่ มีผลลัพธ์เลย 2 แคมเปญนะครับ
3.1 ในแคมเปญ Awareness ใน Adset วิธีการกลุ่มเป้าหมาย คือ ให้เอาคนที่เคยเข้าเว็บ 180 วัน และ คนที่ Engage 180 วัน เพราะว่า ตอนทำแคมเปญนี้ รู้จักกลุ่มลูกค้าดีอยู่แล้ว เลยไม่จำเป็นต้องเริ่มใหม่ เลยสนเฉพาะคนคุ้นกับเราบ้างแล้ว จากนั้นตั้งว่า ไม่รวมคนที่ซื้อของเราจากเลย โดยใส่คนซื้อแล้วในรอบ 30 วันทิ้งไป พวกนี้ให้ส่งไปหน้าสินค้าของเราโดยตรง อย่าลืมให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยนะครับ
3.2 ในแคมเปญ Remarketing ใน Adset วิธีการกลุ่มเป้าหมาย คือ เอาคนที่อ่านหน้าสินค้าเกิน 60% ใน 30 วัน และ คนที่กดใส่ตระกร้า ใน 30 วัน เพราะว่า เราสนใจคนที่อุส่าห์อ่านหน้าสินค้าเราเยอะๆ และ คนที่กดลงตระกร้าแล้วแต่ไม่ยอมซื้อ เช่นกัน เราไม่ต้องการคนที่ซื้อแล้ว ดังนั้น เราจะไม่รวมคนที่ซื้อในรอบ 30 วัน เนื้อหาในกลุ่มนี้คือ ส่ง โปรโมชั่นพิเศาสุดๆ ไปให้พวกเขา เพื่อให้กลับมาสั่งซื้อ
แล้วก็รันโฆษณาไปว่าโฆษณาเราเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งโดยปกติแล้ว ปล่อยให้ทดไปรอสัก 1-3 วัน เพื่อให้โฆษณาทำงานได้ถูกต้อง และ หาติด Pixel ไว้ Facebook จะมีระบบการเรียนรู้และดึงลูกค้าที่ใช่มาให้เราเอง จากนั้นวิธีการที่จะสเกลยอดขายได้คือ ทำ Lookalike ของคนที่อ่านหน้าสินค้าเกิน 60% , คนที่กดใส่ตระกร้า และ คนที่สั่งซื้อ เพื่อให้เขามาใน Funnel ที่เราเตรียมไว้แล้ว ถ้าพูดถึงตัวอยา่งนี้ ต้องวิ่งไปที่แคมเปญ Engagement ก่อน แล้วค่อยๆ กรองให้เขามาที่ Awareness มันเป็น Click to web และ ค่อยทำ Remarketing เพื่อให้พวกเขาซื้อได้ เมื่อรันไปถึงระดับนึง มี Pixel ของคนซื้อเยอะเท่าไหร่ Lookalike ของคนซื้อจะยิ่งดีขึ้นเท่านั้น หลังๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ Lookalike ตัวอื่นเลย
ขอให้ทุกคนโชคดีกับการทำโฆษณาผ่าน Facebook Ads นะครับ
ทีมงาน DigiTide