เคล็ดลับ ใช้ Google Analytics หา Insight ทำโฆษณาถึงแบบแม่นยำ

เคล็ดลับ ใช้ Google Analytics หา Insight ทำโฆษณาถึงแบบแม่นยำ

ในการทำการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะแบรนด์ จะรู้ว่า เว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญมากในการดำเนินธุรกิจสำหรับ ผู้ประกอบการ แต่อาจจะด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้ไม่สามารถลุยการตลาดออนไลน์ได้อย่างเติมที่ โดยเฉพาะเรื่องการใช้เว็บไซต์เป็นเครื่องมือในการสร้างช่องทางการขายเพิ่มมากขึ้น

แต่สำหรับนักธุรกิจออนไลน์ เจ้าของแบรนด์ที่ทำและใช้เว็บไซต์ไว้เพื่อดำเนินกิจการในระดับนึงแล้ว หมายถึง มีการติดตั้งเครื่องมือวิเคราะห์อย่าง Google Analytics พวกคุณสามารถนำดูข้อมูลเพื่อหาสิ่งที่ลูกค้าในเว็บไซต์ของคุณไปสร้างโฆษณา ในการเพิ่มยอดขายได้ด้วย เพียงเข้าใจเรื่องนี้

วิธีใช้ Google Analytics หา Insight ทำโฆษณาหาลูกค้า

ก่อนจะใช้สิ่งเหล่านี้ได้เจ้าของกิจการควรเข้าใจถึงการวางแผนในการทำการตลาดออนไลน์ รวมถึงการวางวัดเป้าหมายหรือผลลัพธ์ในการใช้เว็บไซต์เสียก่อน หากใครยังไม่รู้ต้องเริ่มอย่างไรลองคลิกไลน์มาปรึกษากันก่อนได้ที่นี่>

กรณีตัวอย่าง

นี่เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับสุขภาพ เพื่อแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า คนที่เข้ามาส่วนใหญ่มาจากการทำ SEO และ การทำ Retargeting จากช่องทางโฆษณาอื่นๆ ซึ่งเป้าหมายในการทำในตัวอย่างนี้ คือ ให้ลูกค้ากด Add Line มาเพื่อติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อสินค้า

1.มีเป้าหมายที่ชัดเจน

การทำตลาดออนไลน์สิ่งสำคัญคือมันต้องวัดผลได้ สำหรับ Google Analytics สามารถสร้าง Goal หรือ เป้าหมายได้เช่นกัน ในตัวอย่างอาจจะเป็นการกดไลน์ แต่เป้าหมายจริงๆ มีหลากหมายมาก เช่น การอยู่ในเว็บนาน 10-60 วินาที, การอ่านหน้า Landing Page เกิน 30-90%, การกรอก Email , การสั่งซื้อเสร็จแล้ว เป็นต้น

สมมติว่า กรณีในการวิเคราะห์ครั้งนี้ คือ การสร้างโฆษณาให้ตรงใจลูกค้า วัดผลจากการสร้างเพิ่มเพื่อนในไลน์ให้มากขึ้น

2.ดึงข้อมูลที่จำเป็นมาแสดง

Google Analytics สามารถสร้างหน้า Dashboard เพื่อดึงข้อมูล อายุ, เพศ, จังหวัด, อุปกรณ์ที่ใช้, ช่องทาง, ความสนใจ, หน้าเนื้อหา ที่มีความเกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่เรากำหนดไว้มาแสดงให้ดูได้ จะเห็นข้อมูลรายละเอียด เพื่อวิเคราะห์ในการสร้างสื่อให้ตรงใจกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

3.เชื่อมโยงข้อมูล

การจะเชื่อมโยงข้อมูลก็ต้องเข้าใจก่อนว่า เรากำลังจะทำโฆษณานี้ มาเพื่อหากลุ่มลูกค้าใหม่จากกลุ่มลูกค้าใหม่ หรือ ขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มลูกค้าที่เกี่ยวข้องมากที่สุด

จากภาพตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่แอดไลน์มากกว่าผู้ชายถึง 20% พอไปดูต่อที่อายุ เราจะข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ในช่วงอายุ  คนกลุ่มชุดแรกอายุ 35-44 ผู้ชายแอดไลน์มากกว่าผู้หญิง, กลุ่มคน 45-55 ผู้หญิงแอดไลน์มากกว่าผู้ชาย ซึ่งแอดไลน์มากจากมือถือเป็นเยอะสุด จาก Landing Page เนื้อเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง จังหวดไหนบ้าง จากนั้นมาดูว่า พวกเขาสนใจเรื่องอะไรอยู่ ในตัวอย่างอันดับ 1 คือเป็นคนชอบช๊อป ซึ่งถ้าเราเป็นเว็บไซต์ก็ถือว่ามาถูกทางแล้ว ดังนั้นดูอันดับต่อมาเป็น คนชอบอาหาร , ดูข่าว , สนใจเรื่องสุขภาพ , มาไล่ดูต่อว่าอยู่ในกลุ่มการเงินการลงทุน, ของขวัญ, ไปเที่ยว และ สุดท้ายคัดมา 5 จังหวัด ที่เกิดคนกดคลิกไลน์สูงสุด

ทั้งหมดจากการเชื่อมโยงอาจจะได้มาเป็นแบบนี้

  • โฆษณาสำหรับผู้ชายอายุ 35-44 ที่ชอบทำอาหาร เป็นพนักงานด้านการลงทุน
  • โฆษณาสำหรับผู้ชายอายุ 35-44 ที่ชอบสุขภาพ เป็นกลุ่มคนที่ชอบไปเที่ยว
  • โฆษณาสำหรับผู้หญิงอายุ 45-54 ที่ชอบทำอาหาร เป็นคนที่ดูแลตัวเอง
  • โฆษณาสำหรับผู้หญิงอายุ 45-54 ที่ชอบติดตามข่าว เป็นกลุ่มคนชอบหาของขวัญให้คนอื่น

เราจะเห็นได้ว่า พอเชื่อมโยงข้อมูลจาก Google Analytics จะได้กลุ่มลูกค้าที่น่าสนใจมา เพื่อสู่ขึ้นตอนต่อไป คือ การคิดโฆษณาและ Key Message สำหรับกลุ่มนั้นๆ

4.ใส่ความคิดสร้างสรรค์ในงานโฆษณา

เมื่อรู้เป้าหมาย คือ ให้เพิ่มเพื่อนในไลน์ คัดกลุ่มลูกค้าที่สนใจมาได้ 4 กลุ่มแล้ว ต่อมาก็เป็นกระบวนการคิด Key Message การทำรูป หรือ วิดีโอ แต่ก่อนจะคิดโฆษณาได้ต้องเข้าใจเรื่อง Content Marketing ด้วย ว่าเราจะทำอะไรกับช่องทางไหนบ้าง ต้องมีอะไรบ้างเช่น อย่างใน Facebook ในโพสต้องมีรูป เนื้อหาในโพสยาวหรือสั้น เป็นต้น

เช่น สมมติสินค้าที่ขายเป็นในเว็บไซต์นี้เป็น ยาสมุนไพรช่วยให้หลับง่ายขึ้น

กลุ่ม : ผู้ชายอายุ 35-44 ที่ชอบทำอาหาร เป็นพนักงานด้านการลงทุน

ช่องทาง : Facebook Post

  • KM : “ลงทุนกับสมุนไพรตัวนี้วันละนิด คุ้มค่ามาก เหลือเวลาไปทำสิ่งที่ชอบอีกเพียบ”
  • Media : รูปผู้ชายวัยกลางคนกำลังยิ้มและกำลังทำอาหารในครัวอย่างมีความสุข มีรูปสินค้า และ ให้แอดไลน์

ช่องทาง : Tiktok VDO

  • KM : “เครียดมานาน เจอสมุนไพรตัวนี้ทำให้หลับลึกขึ้น ตื่นมาสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก คุ้มจริงๆ ใครสนใจลองดู”
  • Media : ผู้ชายวัยกลางคนเล่าความประทับใจกับสินค้า พร้อมบอกให้คนไปแอดไลน์ รับโปรโมชั่น

ตอนนี้เรารู้ข้อมูลลูกค้าแล้วแบ่งกลุ่มลูกค้าแล้วจะได้เนื้อหาที่ตรงใจกลุ่มลูกค้าระดับนึงแล้ว ที่เหลือก็เป็นเรื่องการออกแบบและวางแผนการทำยิงแอดโฆษณาไปถึงลูกค้าต่อไป

 5.นำไปทดสอบ

พอคิดมาแล้วทีมการตลาดออนไลน์หรือเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการเติบโต ต้องมีการจัดสรรงบประมาณในการทดสอบโฆษณา เพื่อหาโฆษณาที่ดีที่สุด มีผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุด เพื่อไปใช้ต่อในการสเกลแอดเพิ่มยอดขายนั้นเอง

บทความนี้ ทาง DigiTide คิดว่า ผู้ที่ใช้เว็บไซต์ในการดำเนินธุรกิจก็มีข้อได้เปรียบในการใช้ข้อมูลที่เกิดขึ้นจริงในเว็บไซต์ไปต่อยอดต่างๆ ได้อีกมากมาย เลยมาแบ่งปันสำหรับเพื่อให้เข้าใจถึงการวิเคราะห์ข้อมูลว่า หากมีข้อมูลแล้วเราจะใช้ทำอะไรได้บ้าง นี่เป็นตัวอย่างการเอาข้อมูลจากเว็บไซต์มาแบ่งกลุ่มลูกค้าเพื่อสร้างเนื้อหาสำหรับทำโฆษณา หากเพียงเข้าใจมากขึ้นจะมีเรื่องการทำ Funnel, การทำ Remarketing และ อื่นๆ ได้อีกมากมาย

ใครชอบและคิดว่าเป็นประโยชน์ก็ลองส่งให้เพื่อนลองอ่านดูนะครับ

ส่วนใครสนใจอยากปรึกษาเบื้องต้นสำหรับการทำแบรนด์ การทำการตลาดออนไลน์ สามารถทักมาคุยกันได้นะครับ ขอคนที่สนใจจริงๆ เท่านั้นนะครับ